ทดสอบลิงค์

ตู้ไฟ รางไฟ
Facebook

สถานะเว็บไซต์
เปิดเว็บไซต์ 08/07/2014
ปรับปรุง 04/09/2024
สถิติผู้เข้าชม 2,344,797
Page Views 2,813,486
สินค้าทั้งหมด 497
 

จดหมายข่าว

กรอก Email เพื่อรับข่าวสาร
 

การใช้ไฟฟ้าอย่างถูกต้องเเละปลอดภัย Part 2

การใช้ไฟฟ้าอย่างถูกต้องเเละปลอดภัย Part 2

       หลังจากได้รู้จักกับการใช้ไฟฟ้าอย่างถูกต้องเเละปลอดภัยมาเเล้ว คราวนี้มารู้จักเเละทำความเข้าใจเกี่ยวกับ

อุปกรณ์ป้องกันเครื่องใช้ไฟฟ้าเเละอุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย อันเนื่องมาจากกระเเสไฟฟ้ากระโชก ซึ่งมีสาเหตุ

หลายประการเเละฟ้าผ่าก็เป็นสาเหตุหนึ่ง

การเกิดฟ้าผ่า

    "ฟ้าผ่า" เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยเริ่มจากการก่อตัวของเมฆฟ้าผ่า (Cumulonimbus-

Cloud) ที่มีทั้งประจุบวกเเละลบอยู่ในก้อนเมฆ เมื่อการสะสมประจุมากขึ้นก็ทำให้ศักดาไฟฟ้าระหว่างก้อนเมฆ

กับพื้นดินมีการพัฒนาเพิ่มสูงขึ้นจนถึงจุดสูงสุดที่ทำให้เกิดการถ่ายเทประจุไฟฟ้าปริมาณมหาศาลระหว่างก้อน

เมฆกับพื้นดินที่เรียกว่าฟ้าผ่าซึ่งการเกิดฟ้าผ่าเเต่ละครั้งนั้นไม่สามารถระบุตำเเหน่งที่ฟ้าจะผ่าได้อย่างเเน่นอน

เเละเเต่ละจุดจะก่อให้เกิดเเรงดันไฟฟ้ากระโชกที่ไม่เท่ากัน

ตัวอย่างของความเสียหายจากเเรงดันไฟฟ้ากระโชก

อุปกรณ์ป้องกันไฟกระโชก (Surge Arrester)

       การป้องกันอันตรายจากฟ้าผ่าโดยการติดตั้งระบบเสาล่อฟ้าเเละสายดินจะสามารถป้องกันได้ในระดับหนึ่ง

เท่านั้นเนื่องจากความต้านทานดินที่เกิดขึ้นตอนปักเเท่งกราวด์ลงในดินอาจระบายศักย์ไฟฟ้าปริมาณมหาศาล

ไม่ทันทำให้มีเเรงดันส่วนหนึ่งไหลย้อนเข้าไปในระบบเเละทำความเสียหายกับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ จึงต้องติดตั้ง

อุปกรณ์ป้องกันไฟกระโชก (Surge Arrester) เพิ่มเข้าไปในระบบซึ่งนอกจากสามารถป้องกันไฟกระโชกจาก

ฟ้าผ่าได้มากขึ้นเเล้วยังป้องกันไฟกระโชกอื่นๆได้เช่น ไฟกระโชกจากการปลดสับ Capacitor bank, เกิดความ

ผิดปกติของระบบจ่ายพลังงานไฟฟ้า, สัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า, การเปิด-ปิดสวิตช์อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีมอเตอร์

ใช้พลังงานไฟฟ้ามาก เป็นต้น

หลักการทำงานทั่วไปของ Surge Arrester

      อุปกรณ์ป้องกันไฟกระโชกได้รับการออกเเบบให้สามารถเหนี่ยวนำเเรงดันไฟฟ้าสูงขึ้นในช่วงเวลาอันสั้น

ออกจากอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยสร้างเเนวที่มีความต้านทานต่ำเชื่อมต่อไปสู่ตำเเหน่งของสายดินเพื่อให้เเรงดันที่สูง

ขึ้นชั่วขณะไหลไปตามเเนวความต้านทานต่ำไปยังสายดิน

การป้องกันความเสียหายจากฟ้าผ่าสามารถเเบ่งระดับการป้องกันออกเป็น 4 class ดังนี้

การป้องกัน Class A

     เป็นการป้องกันในส่วนที่อยู่ภายนอกอาคาร ซึ่งป้องกันผลกระทบที่เกิดจากฟ้าผ่าลงสายไฟฟ้าโดยตรงซึ่ง

โดยปกติเเล้วการไฟฟ้าฯ หรือผู้จำหน่ายไฟฟ้าจะเป็นผู้รับผิดชอบในการติดตั้ง Surge arrester/Lightning-

arrester เพื่อไม่ให้เกิดเเรงดันไฟฟ้ากระโชกเข้าไปใน Line ของผู้ใชไฟฟ้า

การป้องกัน Class B

     โดยส่วนใหย่มักจะติดตั้งไว้ใน Main Distribution board  ภายในอาคารเพื่อป้องกันเเรงดันไฟฟ้ากระโชก

ที่เข้ามาใน Main Line ที่เกิดจากฟ้าผ่าโดยตรงหรือฟ้าผ่าลงเสาส่งซึ่ง Surge arrester ciass A ไม่สามารถ

discharge ได้หมด

การป้องกัน Class C

    โดยส่วนใหญ่เเล้วมักจะติดตั้งไว้ใน Sub Main Distribution board ภายในอาคารจะเป็นส่วน downstream

จาก Class B เพื่อป้องกันความเสียหายจากเเรงดันไฟฟ้ากระโชกให้กับระบบรวมทั้งอุปกรณ์ภายในอาคาร

การป้องกัน Class B+C

    โดยส่วนใหญ่เเล้วมักจะติดตั้งไว้ใน Sub Main Distribution board ภายในอาคารเพื่อป้องกันเเรงดันไฟฟ้า

กระโชกที่เข้ามาใน Main Line ซึ่งเป็นป้องกันทั้ง Class B+C ซึ่งเหมาะกับระบบที่ไม่ทราบถึงความเเรงของ

คลื่นฟ้าผ่าที่จะเกิดขึ้นอย่างเเน่นอนเเละเหมาะสำหรับป้องกันความเสียหายอุปกรณ์ภายในอาคาร

การป้องกัน Class D

     โดยส่วนใหญ่เเเล้วมักจะติดตั้งไว้ในตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าย่อย ซึ่งเป็นการป้องกันเเรงดันไฟฟ้ากระโชกที่

เข้ามาใน Main Line ซึ่ง Class C ไม่สามารถ Discharge ได้หมด เหมาะสำหรับป้องกันความเสียหายให้กับ

อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ค่อนข้าง sensitive เช่น โฮมเธียร์เตอร์, เครื่องเสียง, ทีวี, คอมพิวเตอร์, ซึ่งเป็นจุดสุดท้าย

ของการป้องกันที่สามารถป้องกันความเสียหายจาก overvoltage ที่เกิดจากฟ้าผ่าได้อย่างสมบูรณ์

ตัวอย่างของการป้องกันของเเต่ละ Class

การป้องกันสำหรับ Class B+C

การป้องกันสำหรับ Class B+C C D สำหรับอาคาร/สำนักงานเเละโรงงานอุตสาหกรรม

การป้องกันสำหรับ Class C ระยะทางจากตู้ไฟไกลมาก

ตะกร้าสินค้า
จำนวนสินค้า 0 รายการ
ราคา0 ฿
 

หมวดหมู่สินค้า

สินค้ามาใหม่
 

Copyrght 2005-2014. Terakit Electric Solution Co.,Ltd. All rights reserved. Tel. 02-802-9600 | webmaster : showroom@tescontrol.com

 
  
view